Parts of Speech คืออะไร?
Parts of Speech คือ ชนิดหรือประเภทของคำในภาษาอังกฤษ ซึ่งมีหน้าที่และตำแหน่งในประโยคแตกต่างกันออกไป ความเข้าใจเกี่ยวกับ Parts of Speech ถือเป็นพื้นฐานที่สำคัญอย่างยิ่งสำหรับการใช้ภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสารให้ถูกต้อง
การเรียนรู้เพื่อทำความเข้าใจประเภทของคำหรือ Parts of Speech นั้นมีประโยชน์ เพราะจะช่วยให้เราเข้าใจส่วนย่อยของภาษา ตั้งแต่คำ วลี ไปจนถึงประโยคที่ใช้ในภาษาอังกฤษ
Parts of Speech มีอะไรบ้าง?
พื้นฐานที่สำคัญเริ่มต้นด้วยการตอบคำถามที่ว่า Parts of Speech มีกี่ประเภท เราสามารถแบ่งประเภทคำในภาษาอังกฤษตามหน้าที่ได้หลัก ๆ เป็น 8 ชนิด ได้แก่ Noun (คำนาม), Pronoun (คำสรรพนาม), Verb (คำกริยา), Adjective (คำคุณศัพท์), Adverb (คำกริยาวิเศษณ์), Preposition (คำบุพบท), Conjunction (คำสันธานหรือคำเชื่อม) และ Interjection (คำอุทาน)
นอกจากประเภท Parts of Speech ข้างต้นแล้ว บางตำรายังมีคำประเภท Determiner หรือคำนำหน้านาม เช่น a, an, the, that หรือ some อีกชนิดด้วย
Noun - คำนาม
คำที่ใช้แทนชื่อคน สัตว์ สิ่งของ และสถานที่ต่างๆ เช่น book (หนังสือ), dog (สุนัข), Peter (ปีเตอร์) ,Thailand (ประเทศไทย)
Pronoun - คำสรรพนาม
คำที่ใช้แทนคำนามต่างๆ เช่น I (ฉัน), you (คุณ), we (พวกเรา), they (พวกเขา)
Verb - คำกริยา
คำที่ใช้แทนการกระทำต่างๆ เช่น do (ทำ), eat (กิน), play (เล่น), run (วิ่ง)
Adverb - คำกริยาวิเศษณ์
คำที่ใช้ขยายคำกริยา เพื่อบอกลักษณะการกระทำต่างๆ เช่น quickly (อย่างรวดเร็ว), easily (อย่างง่ายดาย), happily (อย่างมีความสุข)
Adjective - คำคุณศัพท์
คำที่ใช้ขยายคำนาม เพื่อบอกลักษณะของคำนามต่างๆ เช่น beautiful (สวย), big (ใหญ่), tall (สูง)
Preposition - คำบุพบท
คำที่ใช้เชื่อมคำและกลุ่มคำเพื่อแสดงความสัมพันธ์ของคำและประโยค โดยทำหน้าที่ได้ทั้งเชื่อมสถานที่ เวลา และทิศทาง เช่น in (ใน), from (บน), by (โดย), under (ใต้)
Conjunction - คำสันธาน
คำที่ใช้เชื่อมกลุ่มคำและวลีเพื่อแสดงความสัมพันธ์ในประโยค ที่สามารถทำให้ประโยคมีความหมายไปในทางเดียวกันและตรงข้ามกันก็ได้ เช่น and (และ), but (แต่), or (หรือ)
Interjection - คำอุทาน
คำที่ใช้แสดงอารมณ์และความรู้สึก ซึ่งบางคำอาจไม่มีความหมายก็ได้ เช่น Wow! (ใช้เมื่อรู้สึกประหลาดใจ), Ew (ใช้เมื่อรู้สึกรังเกียจ), Aw (ใช้เมื่อรู้สึกเอ็นดู/เห็นใจ)